ความน่ากลัวของ AI อาจไม่ใช่สิ่งที่คุณคิด
AI ในอีกสิบปีข้างหน้า จะทำลายหรือหล่อหลอมสังคมมนุษย์?
คำถามนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของอนาคต แต่คือการมองทะลุไปถึง กลไกภายในของสังคม ที่กำลังปรับตัวในแบบที่เราควบคุมได้น้อยลงทุกที
หากมองเพียงแค่ความสามารถทางเทคนิค เราอาจพลาดสิ่งที่สำคัญกว่า นั่นคือ โครงสร้างอำนาจใหม่ ที่ AI กำลังค่อยๆ ปลูกฝังผ่านข้อมูล พฤติกรรม และการตัดสินใจแบบอัตโนมัติ
สิ่งที่น่ากลัวอาจไม่ใช่ “AI คิดเองได้” แต่คือการที่มนุษย์ ค่อยๆ ยอมให้ AI คิดแทน โดยไม่รู้ตัว ต่างหากที่น่ากังวล
ลองจินตนาการถึงระบบสาธารณสุข ศาลยุติธรรม หรือการศึกษา ที่ขับเคลื่อนด้วยโมเดลอัลกอริธึม เมื่อมันเรียนรู้จากอดีตที่มีอคติ มันก็ขยายอคตินั้นสู่อนาคตด้วยประสิทธิภาพสูงสุด
ความก้าวหน้าไม่ได้แปลว่าเป็นกลางเสมอไป AI ที่มีพลังมากขึ้นในอีกสิบปีข้างหน้า อาจทำให้ความเหลื่อมล้ำฝังแน่นขึ้น เพราะโครงสร้างที่สร้างมันขึ้นมาไม่ได้เปลี่ยนตาม
เทคโนโลยีไม่ได้ทำลายมนุษย์ แต่มนุษย์ต่างหากที่อาจทำลายกันเองผ่านการใช้เทคโนโลยีโดยไร้สติ
จากกรณีของระบบเครดิตสังคมในบางประเทศ เราเห็นได้ว่า AI ถูกใช้ควบคุมพฤติกรรมในระดับที่ลึกกว่ากฎหมาย ด้วยความเร็วที่กฎหมายไล่ไม่ทัน เมื่ออัลกอริธึมมีอำนาจมากกว่านโยบาย
สิ่งที่เหลืออยู่คือเงาของการควบคุม
อีกมุมหนึ่งที่น่าจับตามองคือ การก่อตัวของ “ความเป็นจริงจำลอง” ซึ่งสร้างขึ้นโดย AI เพื่อให้ผู้ใช้อยู่ในโลกที่ตรงกับอคติ ความเชื่อ หรือความต้องการของตนเสมอ
เรากำลังเข้าใกล้จุดที่การเสพข้อมูลไม่ใช่การเปิดโลก แต่กลายเป็นการปิดโลก ด้วยข้อมูลที่ “ถูกคัดสรร” อย่างแม่นยำเกินไป
ภายใต้การออกแบบประสบการณ์ที่แสนสะดวก AI อาจทำให้มนุษย์ หยุดถามคำถามสำคัญเกี่ยวกับชีวิต เพราะทุกคำตอบถูก “เตรียมไว้แล้ว” อย่างน่าพอใจ
คำถามสุดท้ายที่เราควรพิจารณาไม่ใช่ว่า AI จะน่ากลัวแค่ไหน แต่คือ เราจะรักษาพื้นที่ความเป็นมนุษย์ไว้ได้อย่างไร เมื่อโลกถูกจัดการด้วยความแม่นยำทางตรรกะที่ไร้หัวใจ